ปฎิทินหุ้นของเรา

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

สมัครนายหน้าค้าหุ้น

          เส้นทางการเดินทางบนเส้นทางการลงทุนนั้นมีหลากหลายวิธี การเป็นนายหน้าค้าหุ้นก็เป็นวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจ คุณสมบัติหนึ่งที่ต้องมีคือการสอบ Single Licence  เรามาดูขั้นตอนเตรียมตัวการสอบ Single Licence กัน
          การเตรียมตัวสอบ Single Licence นี้ เอามาจากแนวทางในเว็บ http://sedthavut.in.th/single-license-preparation-engineering-edition/ 


  • ค่าสมัครสอบ 1,070 บาท สอบได้ทุกอาทิตย์ 

  • การสอบ Single License จะแบ่งเป็น 2 Part ใหญ่ๆ มี Part จริยธรรม กับ Part ความรู้ ซึ่ง ผู้ที่สอบผ่านได้ จะต้องได้คะแนนรวมกัน (ข้อสอบ 120 ข้อ) เกิน 70% และใน Part จริยธรรม ต้องได้เกิน 70 % ด้วยไม่งั้นจะไม่ตรวจข้อสอบ Part ความรู้ 


          แทรกนิดๆ สำหรับคนไม่รู้จัก Single License มันคืออะไร ? สอบไปทำไม ?

พูดง่ายๆก็คล้ายๆใบประกอบวิชาชีพที่จะต้องมีของอาชีพนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ดูเนื้อหาสอบตามนี้เลย http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1154&Itemid=917



# หนังสืออ่านประกอบ


          1 ตลาดการเงินและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์


          2 เล่มจริยธรรม Single License จรรยาบรรณ 

# ขั้นตอนการเตรียมตัว

1. อ่านเล่ม 700 หน้าให้จบ 1 รอบ และ เล่มจริยธรรมอ่านไปเลยซัก 3-4 รอบ ให้เข้าหัวหน่อย

2. พอทำข้อ 1. เสร็จ รีบทำสรุปส่วน Part จริยธรรมก่อนเลย เพราะคะแนน Part นี้สำคัญมากต้องผ่านก่อน ไม่งั้นมันจะไม่ตรวจ Part ความรู้ (ไอ้ข้อสอบเนื้อหา 700 หน้าที่เราอ่านมา) 
เราอ่านจากนี่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=rungplaifa&month=05-2014&date=12&group=6&gblog=2 เป็นการบอกทั้งแนวทั้งสรุป ถือว่าดีมากๆ

3. ดูเทคนิคการสอบจากพี่คนนี้ http://msyayaa.exteen.com/20130329/10-single-license ก็ไม่ลง detail อะไรมากแต่ถือว่ามีประโยชน์มากเลย เพราะหนังสือมีสูตรเป็น 100 ดูในบล๊อคนี้เค้าสรุปสูตรสำคัญๆมาให้

4. ยังไม่ต้องทำสรุปไอ้ 700 หน้า ห้ามเด็ดขาด เพราะว่าจากที่เราดูๆนะ ประเด็นมันเยอะมากๆๆ ไม่มีทางสรุปถูกอะ เราเลยแนะนำว่าทำข้อสอบก่อนเลย ทำให้หมดเลยนะทุกบท
http://www.mediafire.com/download/6xocw3f9ao5s5f5/Single_License_Exam.doc

5. คือจากข้อ 4. ชุดข้อสอบมันจะมีเฉลย พร้อมคำอธิบายให้ คือดีมากเลย ที่เราบอกว่ายังไม่ต้องสรุปหนังสือให้มาทำข้อสอบก่อนก็เพราะงี้แหละ เวลาเราสรุป เราสรุปจากเฉลยของข้อสอบเอาก็พอ ไม่ต้องไปสรุปทั้งเล่ม ไม่งงนะ พอทำเสร็จทุกบทรวมๆข้อสอบที่ทำมีเป็นร้อยๆข้ออยู่ มันทำให้เราจับประเด็นได้ดีขึ้นเยอะเลย แล้วถึงตอนนั้นแหละค่อย ทำสรุป Part ความรู้ ออกมา ตอนเราทำ เราเอาสมุดเปล่าๆมาเล่มนึงเพื่อสรุปแต่ละบทโดยเฉพาะเลย

6. พอสรุปเสร็จ มันไม่จะไม่ Get 100% อะเราแนะนำว่า หา Youtube มาดู มันเป็นการ Overview จัดความรู้ในหัวให้เรา และคือเราไม่อยากเสียเงินไปเรียน คือมันเสียเวลา ก็เลยหาคำว่า Single License เอาจาก Youtube เราดูจาก Playlist คนนี้เอา https://www.youtube.com/playlist?list=PLdRJa1fho6L4gfYfvHeH52SCcsOk6pACK

ถือว่าช่วยทำให้เข้าใจอะไรได้เยอะเลย ใน Playlist จะมีไม่ครบทุกบท แต่ถือว่า Cover บทสำคัญๆได้หมดเลย




7.  * ข้อ 4 5 6 เราใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 วัน (ก่อนสอบ) คือเก็บตัวไม่ออกไปไหนแล้วก็อ่านๆๆ ทำโจทย์ๆ ทำประมาณ 2-3 รอบได้มั้ง แล้ววันสอบก็อ่านสรุป

# การเตรียมตัว ณ วันสอบ

1. เอาสรุปที่เราจดไว้มาอ่านทวนๆ
2. ไปถึงก่อนเวลาซัก 30 นาที เราสอบ 13.30 ก็ไปถึงที่สอบ 13.00
3. เครื่องคิดเลขแบบวิศวะที่มี Function ห้ามใช้เลยนะ ใช้เครื่องคิดเลขแบบแม่ค้า Only

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

ประเมินมูลค่าหุ้นแบบ อ ชาย

การประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย       
   
          การกำหนดจุดขายอาจจะกำหนดได้หลากหลายวิธี พูดง่ายๆคือการ ประเมินมูลค่าหุ้นนั่นเอง โดยเราจะพิจารณาราคาตลาดว่าเกินมูลค่าหรือยัง ถ้าเกินมูลค่าเราก็ควรต้องขาย การประเมินมูลค่านั้น ถือว่ามีธีการที่ยากมาก แต่เราก็สามารถประเมินมูลค่าหุ้นแบบง่ายๆ ซึ่งได้ผล เหมือนวิธียากๆ นั่นคือการประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย คนเดิมนั่นเอง โดยมีหลักการดังนี้

          "เงินปันผลที่ได้รับต้องได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่น้อยไปกว่าการเอาเงินลงทุนในจำนวนที่เท่ากับไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย เขียนเป็นสมการได้ดังนี้"

          เงินปันผลต่อหุ้น = อัตราดอกเบี้ย(%) X ราคาหุ้น

          ตัวอย่าง : หุ้น A ปีนี้ได้กำไรต่อหุ้น(E) 1 บาท สมมุติว่าจากกำไรดังกล่าวสามารถจัดปันผลได้ที่ 0.35 บาทต่อหุ้น และถ้าดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ 2.5% ต่อปี ดังนั้นเราจะหาราคาหุ้นที่เต็มมูลค่าได้คือ
                              0.35 = (2.5 / 100 ) x ราคาหุ้น
                     ราคาหุ้น  =  0.35 / [(2.5 / 100 )]
                     ราคาหุ้น  =  14 บาท

วิธีการเลือกหุ้น อ ชาย

วิธีการเลือกหุ้นแบบอาจารย์ ชาย
          วิธีการเลือกหุ้นของอาจารย์ ชาย กิตติคณาภรณ์ ที่ใช้กับคนมีเงินน้อย จะเน้นว่าต้องเลือกหุ้น
  • ที่ใช่ => ต้องทำธุรกิจผูกขาด
  • ที่ถูก => P/BV น้อยๆ อาจจะมากกว่า 1 เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 2
  • ที่ดี => ดูงบการเงิน อัตราส่วนทางการเงินแข็งแกร่ง
  • ปลอดภัย => 
  • กำไรสูงสุด => 

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559

MAGIC5

MAGIC5 Formula

          สูตรการคำนวณเพื่อหาหุ้นจาก MAGIC5 นั้น ผมลองคิดสูตรขึ้นเพื่อแก้ไขสูตร MAGIC3 เช่นกัน โดยเป็นการปรับจากการใช้ตัวแปร P/E ที่หาค่าไม่ได้เป็น P/E มีค่ามากแต่หาค่าได้แทนและตัวแปรอื่นๆ ยังเหมือนเดิมคือ P/BV ต่ำ และมี ROA สูง แต่จากผลการทดลองพบว่าสามารถคำนวณหุ้นที่มีโอกาสเติบโตได้น้อยกว่าสูตรอื่นๆ คงต้องใช้ระยะเวลาในการทดลองอีกเพื่อยืนยันเทคนิคดังกล่าว

     วิธีการหาหุ้นจากการใช้การคำนวณ MAGIC5
          1 เรียงหุ้นจากที่มี P/E มากไปหา P/E น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          2 เรียงหุ้นจากที่มี P/BV น้อยไปหา P/BV มาก แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          3 เรียงหุ้นจากที่มี ROA มากไปหา ROA น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          4 เอาอันดับของหุ้นในข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 มาบวกกัน เราจะได้อันดับ MAGIC ของหุ้นแต่ละตัว
          5 เรียงหุ้นจากอันดับ MAGIC ในข้อ 4 จากน้อยไปหามาก
          6 คัดเลือกหุ้น 30 ตัวแรกมาวิเคราะห์ต่อ          

     VDO สาธิตการหาหุ้นจาก MAGIC5

........   

MAGIC4

MAGIC4 Formula

          สูตรการคำนวณเพื่อหาหุ้นจาก MAGIC4 นั้น ผมลองคิดสูตรขึ้นเพื่อแก้ไขสูตร MAGIC3 ผลจากการทดลองพบว่า หุ้นที่ได้จากการคำนวณด้วย MAGIC4 มีจำนวนมากที่เหมาะสำหรับเล่น VI แต่อาจจะไม่แน่นอน 100% ยังไงก็อาจจะต้องทบทวนเพ่ิมเติมให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ-ขาย โดยตัวแปรที่นำมาพิจารณาเป็นหลักคือ หุ้นที่มีค่า P/E หาค่าไม่ได้ มี P/BV ต่ำ มี ROE สูงและมี ROA สูง

     วิธีการหาหุ้นจากการใช้การคำนวณ MAGIC4
          1 เรียงหุ้นจากที่มี P/E หาค่าไม่ได้ไปหา P/E น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          2 เรียงหุ้นจากที่มี P/BV น้อยไปหา P/BV มาก แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          3 เรียงหุ้นจากที่มี ROE มากไปหา ROE น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          4 เรียงหุ้นจากที่มี ROA มากไปหา ROA น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          5 เอาอันดับของหุ้นในข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ 4 มาบวกกัน เราจะได้อันดับ MAGIC ของหุ้นแต่ละตัว
          6 เรียงหุ้นจากอันดับ MAGIC ในข้อ 5 จากน้อยไปหามาก 
          7 คัดเลือกหุ้น 30 ตัวแรกมาวิเคราะห์ต่อ          

     VDO สาธิตการหาหุ้นจาก MAGIC4

........

MAGIC3

MAGIC3 Formula

          สูตรการคำนวณเพื่อหาหุ้นจาก MAGIC3 นั้น ความตั้งใจของผมจัดสูตรขึ้นเพื่ออยากได้หุ้นที่เอามาเล่น Turnaround แต่ไม่แน่ใจว่าผลจะเป้นยังไงเพราะว่าทดลองแค่ 2 เดือนยังไม่เห็นผลที่น่าพอใจครับ โดยตัวแปรที่นำมาพิจารณาเป็นหลักคือ หุ้นที่มีค่า P/E หาค่าไม่ได้ มี P/BV ต่ำ และมี ROA สูง


     วิธีการหาหุ้นจากการใช้การคำนวณ MAGIC3

         1 เรียงหุ้นจากที่มี P/E หาค่าไม่ได้ไปหา P/E น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          2 เรียงหุ้นจากที่มี P/BV น้อยไปหา P/BV มาก แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้

          3 เรียงหุ้นจากที่มี ROA มากไปหา ROA น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          4 เอาอันดับของหุ้นในข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 มาบวกกัน เราจะได้อันดับ MAGIC ของหุ้นแต่ละตัว
          5 เรียงหุ้นจากอันดับ MAGIC ในข้อ 4 จากน้อยไปหามาก          

          6 คัดเลือกหุ้น 30 ตัวแรกมาวิเคราะห์ต่อ          

     VDO สาธิตการหาหุ้นจาก MAGIC3


........

MAGIC2

MAGIC2 Formula


     วิธีการหาหุ้นจากการใช้การคำนวณ MAGIC2

          1 เรียงหุ้นจากที่มี P/E น้อยไปหา P/E มาก แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          2 เรียงหุ้นจากที่มี ROA มากไปหา ROA น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          3 เอาอันดับของหุ้นในข้อ 1 มาบวกกับอันดับของหุ้นในข้อ 2 เราจะได้อันดับ MAGIC ของหุ้นแต่ละตัว
          4 เรียงหุ้นจากอันดับ MAGIC ในข้อ 3 จากน้อยไปหามาก
          5 คัดเลือกหุ้น 30 ตัวแรกมาวิเคราะห์ต่อ

     VDO สาธิตการหาหุ้นจาก MAGIC2

MAGIC1

MAGIC1 Formula

     วิธีการหาหุ้นจากการใช้การคำนวณ MAGIC1
          1 เรียงหุ้นจากที่มี P/E น้อยไปหา P/E มาก แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          2 เรียงหุ้นจากที่มี ROE มากไปหา ROE น้อย แล้วจดอันดับของหุ้นแต่ละตัวไว้
          3 เอาอันดับของหุ้นในข้อ 1 มาบวกกับอันดับของหุ้นในข้อ 2 เราจะได้อันดับ MAGIC ของหุ้นแต่ละตัว
          4 เรียงหุ้นจากอันดับ MAGIC ในข้อ 3 จากน้อยไปหามาก
          5 คัดเลือกหุ้น 30 ตัวแรกมาวิเคราะห์ต่อ

     VDO สาธิตการหาหุ้นจาก MAGIC1

........

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

RML

RML - ฝึกวิเคราะห์ตามหลักการ Filter หุ้นแบบผสม

จากการ สร้าง Filter หุ้นแบบผสมจะมีการวิเคราะห์ RML ได้ดังนี้     
     1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
     2. พิจารณากราฟราย Month 
     3. พิจารณาแบบ 56-1 และงบการเงินย้อนหลัง
     4. พิจารณาจุดการเข้าซื้อจากกราฟราย Day
     5. กำหนดจุด Cut loss และจุดขายจากกราฟราย Day และข่าวสาร


1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
     หุ้น RML นั้นพิจารณาจาก MAGIC1-5 ในเดือนต่างๆ พบผลที่เกิดขึ้นคือ
  • 1.1 เจอ RML อยู่ใน MAGIC 1 และ MAGIC 2 ตั้งแต่ 20150422 แล้ว แต่ตอนนั้นเมื่อพิจารณาเป็นสัปดาห์ต่อครั้ง สัปดาห์แรกยังมีค่าเปอร์เซนต์ ลบ 47.76 ซึ่งไม่น่าสนใจอะไร
  • 1.2 เมื่อพิจารณาไปรื่อยๆ จนกระทั่งมาสะดุดที่ MAGIC 20151130 - 20151225 โดย RML เริ่มบวก 3.54 แล้วจึงเริ่มไปดูกราฟ (เรื่องกราฟจะมาเขียนต่อในข้อ 2)
  • 1.3 หลังจากนั้นได้ทำ MAGIC1-2 และ MAGIC3-5 พบว่า ตอนเริ่มสร้าง MAGIC3-5 ในเดือน 12 (99105 MAGIC 20151209 Begin MG34) จะเริ่มเจอ ใน MAGIC 1, 2 และ 4 แต่ MAGIC 3 และ 5 ยังไม่เจอโดยผลเทียบ 1 สัปดาห์ของ 99105 MAGIC 20151209 - 20151217 ผลที่ได้คือ บวก 3.74 และบวกเพิ่มมาเรื่อยๆอย่างน่าสนใจทุกสัปดาห์ โดยล่าสุด 99105 MAGIC 20151209 - 20160107 ได้ผลบวก 14.02%
  • 1.4 จากผลดังกล่าวจึงเริ่มสนใจ RML อย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญอีกอย่างราคา RML ราคาเป็นหุ้นตัวเล็กมากๆ 1 บาทกว่าๆ ยิ่งน่าสนใจ

2. พิจารณากราฟราย Month
  • จากผลในข้อ 1.2 เนื่องจาก RML เริ่มมีค่าบวกจาก MAGIC ต่างๆ เลยลองพิจารณากราฟราย Month กันก่อน
  • กราฟราย Month RML จากเข้าตลาดถึงวันที่ 20151225
  • จากผลกราฟราย Month พบว่า ราคานิ่งมานานและเริ่มสวิงเหมือนเจ้ามือกำลังเก็บของเพื่อความชัดเจนขึ้นจะทำการซูมช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีเพื่อดูกรอบการวิ่งของราคาภายใน 2-5 ปี
  • ตั้งแต่ปลายปี 2554 ถึงต้นปี 2559 กราฟราย month มีแนวโน้มน่าสนใจมาก ท่าทางมี Upside มากกว่า Downside เมื่อพบแบบนี้ เราควรจะไปอ่านแบบ 56-1 และงบย้อนหลังเป็นขั้นตอนต่อไป (ในขณะบันทึกวันที่ 20160108 ราคาดีดขึ้น 5% จากวันที่ 20160107)
3. พิจารณาแบบ 56-1 และงบการเงินย้อนหลัง
     หุ้น RML


บันทึกอื่นๆ 
  • หลังจากเฝ้า RML มาเดือนกว่า ปรากฏว่าขึ้นมาตลอด อยากลองจับกราฟและใส่ Fibo ดูผลปรากฎว่ามัน Break 61.80% แล้วตอนนี้มันวิ่งขึ้นมาเกือบ 30% แล้วถือว่าน่าสนใจมาก ประเด็นต่อจากนี้คือ จริงๆเราควรจะซื้อตอนนี้ break 61.80% หรือซื้อที่มัน break แนวต้านครั้งที่แล้วคือที่ 38.20% หรือหลังมัน break จุดสองจุดนี้แล้วย่อลงมาแนวรับของแต่ละจุด





Filter หุ้นแบบผสม

          จากการที่ได้ดูการหาหุ้นหลายวิธี ณ วันนี้ 2016/01/09 พบว่าน่าจะใช้วิธีการผสมของตัวเองโดยเริ่มต้นจาก MAGIC ทั้ง 5 ตัวมาพิจารณา เลยได้ทำการบันทึกและปรับปรุง จากการทดสอบทาง Excel ไปเรื่อยๆ อีกครั้ง สำหรับ สูตร MAGIC นั้น เริ่มต้นการทดสอบใน Excel ตั้งแต่ เดือน 4 ปี 2015 ตอนนั้นจะมีแค่ MAGIC1 และ MAGIC2 ต่อมาเริ่มปรับมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น MAGIC1-5 สำหรับสูตรการหาค่า MAGIC ต่างๆ ก็สามารถหาอ่านได้ตามบทความข้างล่างต่อไป 

     สำหรับขั้นตอนการ Filter หุ้นตามสูตรการผสมของตัวเองนั้นมีขั้นตอนคือ
     1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
     2. พิจารณากราฟราย Month 
     3. พิจารณาแบบ 56-1 งบการเงินย้อนหลังและข่าวสาร 
     4. กำหนดจุด Cut loss จุดขายจากประเมินมูลค่าและจากกราฟราย Day 
     5. พิจารณาจุดการเข้าซื้อจากกราฟราย Day

รายละเอียดดังนี้
1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
          การพิจารณา MAGIC1-5 นั้น เป็นการพิจารณากรองหุ้นโดยใช้ MAGIC Formula ซึ่งผลจากการวิเคราะห์วิจัยของต่างประเทศจะมีอยู่สองสูตรคือ MAGIC1 และ MAGIC2 ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับนึง แต่หลังจากที่ทางตัวเราเองลองติดตามการใช้ MAGIC1-2 นั้นพบว่า ผลที่ได้ก็ยังมีโอกาสให้เราเลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตจริงได้น้อย จึงได้ลองคิด MAGIC Formula เอามาเทียบเคียงและใช้งานเองโดยได้สร้าง MAGIC Formula ขึ้นมาอีก 3 สูตรคือ MAGIC3, MAGIC4 และ MAGIC5
          Concept ของการใช้ MAGIC Formula นั้นไม่ใช่เราจะเอาหุ้นจากการคำนวณ MAGIC Formula ได้ทั้งหมด มาซื้อแล้วถือรอ 1 ปีเพือรอผลตอบแทน 10% เพราะจากการเฝ้าติดตามผลนั้น พบว่ามีหุ้นบางตัวที่วิ่งได้สูงจริงแต่ก็มีหุ้นส่วนมากที่ขาดทุนหนักอยู่จำนวนหลายตัวมากๆ เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วสูตรการใช้ MAGIC Formula ในแนวความคิดของผมนั้นคิดว่าเราควรมีขั้นตอนการใช้ดังนี้ 

  • 1.1 List รายชื่อหุ้นที่เราคำนวณมาได้จาก MAGIC Formula ในแต่ละเดือน ของแต่ละ MAGIC
  • 1.2 ดูความเปลี่ยนแปลงของหุ้นแต่ละ MAGIC สัปดาห์ละครั้งหรือแล้วแต่ว่าจะต้องการติดตามให้ถี่แค่ไหน อันนี้แล้วแต่ถนัด
  • 1.3 เมื่อเจอหุ้นในแต่ละ MAGIC ที่มีแนวโน้มเขียวเริ่มทำกำไรได้ เราจะเลือกหุ้นเหล่านั้นมาวิเคราะห์ต่อในขั้นตอนของการดูกราฟและอื่นๆต่อไป
          จะสังเกตุเห็นว่าการเลือกหุ้นจาก MAGIC Formula นั้น แค่เป็นการเลือกหุ้นเพื่อมาวิเคราะห์ต่อเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อเลือกหุ้นมาจาก MAGIC แล้วซื้อทันที 
          ข้อค้นพบอีกอย่างคือ หุ้นที่คำนวณเจอใน MAGIC Formula หลายเดือนติดต่อกันมักจะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง และข้อค้นพบอีกอย่างพบว่า ถ้าเราจะเลือกหุ้นจาก MAGIC Formula เพื่อเล่นหุ้นแนว VI หุ้นที่เจอใน MAGIC4 มักจะมีโอกาสที่ดีที่ใช้ในการเล่นแนว VI มากกว่าหุ้นใน MAGIC อื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่หุ้นใน MAGIC อื่นๆจะไม่ดีเพียงแต่จากสถิติที่ผ่านมาผลออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนการเล่นหุ้น Turnaround จากการเลือกหุ้นใน MAGIC ยังไม่ชี้ชัดใดๆว่า สามารถเลือกมาใช้เล่นได้ผลอย่างน่าพอใจ

          สำหรับการคำนวณสูตรของ MAGIC1-5 มีดังนี้
          นอกจากการกรองหุ้นโดยใช้การคำนวณ MAGIC แล้วเราอาจจะใช้การกรองหุ้นซ้ำจากการใช้ MAGIC เพิ่มเติมคือการใช้หลักการเลือกหุ้นแบบ อาจารย์ ชาย กิตติคุณาภรณ์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

วิธีการเลือกหุ้นแบบอาจารย์ ชาย

          วิธีการเลือกหุ้นของอาจารย์ ชาย กิตติคณาภรณ์ ที่ใช้กับคนมีเงินน้อย จะเน้นว่าต้องเลือกหุ้น
  • ที่ใช่ => ต้องทำธุรกิจผูกขาด
  • ที่ถูก => P/BV น้อยๆ อาจจะมากกว่า 1 เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 2
  • ที่ดี => ดูงบการเงิน อัตราส่วนทางการเงินแข็งแกร่ง
  • ปลอดภัย => 
  • กำไรสูงสุด => 

2. พิจารณากราฟราย Month 
3. พิจารณาแบบ 56-1 งบการเงินย้อนหลังและข่าวสาร
          สาระสำคัญในการอ่านแบบ 56-1 และวิเคราะห์งบการเงินจะใช้ การพิจารณาตามแนวทางดังนี้

- ขั้นแรกดูเทรนด์ของงบการเงินตัวสำคัญๆ
  • EPS ควรเป็นเทรนด์ขาขึ้น 5 ปีย้อนหลัง
  • D/E ควรเป็นเทรนด์ขาลง 5 ปีย้อนหลัง (ถ้าได้ค่า น้อยกว่า 2 หรือเป็น 0 จะดีมากๆ)
- ขั้นสองอ่านแบบ 56 - 1
          ในเรื่องของแบบ 56-1 นั้น เป็นการพิจารณาตัวธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ว่าเค้าทำธุรกิจอะไร มาจากไหน โครงสร้างบริษัทเป็นยังไง กำไรเกิดได้อย่างไร รวมทั้งความเสี่ยงและโอกาสต่างๆของบริษัทมากมาย พูดง่ายว่าแบบ 56-1 นั้น สามารถบอกเราเกี่ยวกับบริษัท ก่อนที่เราจะตัดสินใจเป็นเจ้าของ
          สำหรับแบบ 56-1 นั้นจะมีหลายไฟล์แยกย่อย ซึ่งบางคนอาจมองว่าเยอะมากกว่าจะอ่านจบสักบริษัท แต่เอาเข้าจริงๆเวลาอ่านถ้าได้อ่านอย่างตั้งใจเรื่อยๆพบว่า ไม่เกิน 2 วัน ก็น่าจะอ่านได้เข้าใจและอ่านได้หมด ซึ่งเราอาจจะเน้นอ่านไฟล์ BUSINESS และไฟล์ FINANCE ก่อนไฟล์อื่นๆ ก็ได้ จะทำให้เราเข้าใจและรู้จักบริษัทได้ก่อน
          การหาไฟล์แบบ 56-1 ได้มาจากไหน ผมจะเขียนวิธีขั้นตอนให้จากลิ้ง  การหาไฟล์แบบ 56-1 ของบริษัท (<== กดตามนี้ได้เลย)

- ขั้นสามดูรายละเอียดงบการเงินล่าสุด ตามตารางไกด์นำ



          ข้อแนะนำเพิ่มเติมในจุดนี้ เพื่อความปลอดภัยในหุ้นเราอาจจะเพิ่มการพิจารณาเข้าไปหากเป็นไปได้ในปีที่จะซื้อ ในเรื่องของ
  • P/E  ควรไม่เกิน 10  
  • P/BV  ควรไม่เกิน 1.5
  • กำไรต่อเนื่อง 5 ปี
  • มีความคล่องตัวสูง
  • Market Cap 1,000 ล้านขึ้น  
  • มีโอกาสการล้างขาดทุนสะสม
     หรือถ้าหากใช้กลยุทธ์จากพี่ โจ ลูกอิสานเราก็สามารถเพิ่มเติมเงื่อนไขในแบบหุ้น VI คือ
  • มีกำไร ต่อเนื่องยาวนาน
  • P/E น้อยๆ
  • ROE ต้องมากกว่า 15%
  • D/E ไม่ควรเกิน 1 เท่า
  • มีเงินสดเยอะ
  • หุ้นต้องเป็นขนาดเล็กหรือกลาง
  • มองหาตัวเร่งเร้าที่รุนแรง
  • ผู้บริหารดี
          แต่หากข้อกำหนดเพิ่มเติมนี้ไม่มีครบทุกข้อก็ไม่เป็นไร เพราะหุ้นที่เราเลือกมากจาก MAGIC ส่วนใหญ่มักจะมาจาก MAGIC4 ซึ่งกำไรอาจจะไม่มากนักหรืออาจจะมีปัญหาบ้างแต่เรื่อง Cash Flow กับ D/E เป็นเรื่องสำคัญมาก
          สำหรับการหาอัตราส่วนทางการเงินและตัวแปรทางการเงินตามตารางมีวิธีการหาโดยดูจากงบการเงินล่าสุดเลือกตามลิ้งดังนี้
  • ทุนจดทะเบียน 
  • จำนวนหุ้น
  • รวมส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่
  • Par
  • ราคาหุ้นปัจจุบัน
  • รายการสินทรัพย์หมุนเวียน
  • รายการหนี้สินหมุนเวียน
  • สินค้าคงเหลือ
  • รายได้รวม
  • รวมสินทรัพย์
  • รวมหนี้สิน
  • เงินสด
  • ส่วนเกินมูลค่าหุ้น
  • BV
  • P/BV
  • P/E
  • Current Ratio
  • Quick Ratio
  • A/R Turnover
  • Day Recieve
  • Inventory Turnover
  • Inventory Day
  • เงินลงทุนชั่วคราว
  • D/E
  • สามารถกู้เงินเพิ่มได้
  • รวมเงินที่สามารถลงทุนได้

4. กำหนดจุด Cut loss จุดขายจากประเมินมูลค่าและจากกราฟราย Day 

การประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย       
   
          การกำหนดจุดขายอาจจะกำหนดได้หลากหลายวิธี พูดง่ายๆคือการ ประเมินมูลค่าหุ้นนั่นเอง โดยเราจะพิจารณาราคาตลาดว่าเกินมูลค่าหรือยัง ถ้าเกินมูลค่าเราก็ควรต้องขาย การประเมินมูลค่านั้น ถือว่ามีธีการที่ยากมาก แต่เราก็สามารถประเมินมูลค่าหุ้นแบบง่ายๆ ซึ่งได้ผล เหมือนวิธียากๆ นั่นคือการประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย คนเดิมนั่นเอง โดยมีหลักการดังนี้

          "เงินปันผลที่ได้รับต้องได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่น้อยไปกว่าการเอาเงินลงทุนในจำนวนที่เท่ากับไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย เขียนเป็นสมการได้ดังนี้"

          เงินปันผลต่อหุ้น = อัตราดอกเบี้ย(%) X ราคาหุ้น

          ตัวอย่าง : หุ้น A ปีนี้ได้กำไรต่อหุ้น(E) 1 บาท สมมุติว่าจากกำไรดังกล่าวสามารถจัดปันผลได้ที่ 0.35 บาทต่อหุ้น และถ้าดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ 2.5% ต่อปี ดังนั้นเราจะหาราคาหุ้นที่เต็มมูลค่าได้คือ
                              0.35 = (2.5 / 100 ) x ราคาหุ้น
                     ราคาหุ้น  =  0.35 / [(2.5 / 100 )]
                     ราคาหุ้น  =  14 บาท

5. พิจารณาจุดการเข้าซื้อจากกราฟราย Day