จากการที่ได้ดูการหาหุ้นหลายวิธี ณ วันนี้ 2016/01/09 พบว่าน่าจะใช้วิธีการผสมของตัวเองโดยเริ่มต้นจาก MAGIC ทั้ง 5 ตัวมาพิจารณา เลยได้ทำการบันทึกและปรับปรุง จากการทดสอบทาง Excel ไปเรื่อยๆ อีกครั้ง สำหรับ สูตร MAGIC นั้น เริ่มต้นการทดสอบใน Excel ตั้งแต่ เดือน 4 ปี 2015 ตอนนั้นจะมีแค่ MAGIC1 และ MAGIC2 ต่อมาเริ่มปรับมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น MAGIC1-5 สำหรับสูตรการหาค่า MAGIC ต่างๆ ก็สามารถหาอ่านได้ตามบทความข้างล่างต่อไป
สำหรับขั้นตอนการ Filter หุ้นตามสูตรการผสมของตัวเองนั้นมีขั้นตอนคือ
1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
2. พิจารณากราฟราย Month
3. พิจารณาแบบ 56-1 งบการเงินย้อนหลังและข่าวสาร
4. กำหนดจุด Cut loss จุดขายจากประเมินมูลค่าและจากกราฟราย Day
5. พิจารณาจุดการเข้าซื้อจากกราฟราย Day
รายละเอียดดังนี้
1. พิจารณาเลือกหุ้นจาก MAGIC 1-5
การพิจารณา MAGIC1-5 นั้น เป็นการพิจารณากรองหุ้นโดยใช้ MAGIC Formula ซึ่งผลจากการวิเคราะห์วิจัยของต่างประเทศจะมีอยู่สองสูตรคือ MAGIC1 และ MAGIC2 ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับนึง แต่หลังจากที่ทางตัวเราเองลองติดตามการใช้ MAGIC1-2 นั้นพบว่า ผลที่ได้ก็ยังมีโอกาสให้เราเลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตจริงได้น้อย จึงได้ลองคิด MAGIC Formula เอามาเทียบเคียงและใช้งานเองโดยได้สร้าง MAGIC Formula ขึ้นมาอีก 3 สูตรคือ MAGIC3, MAGIC4 และ MAGIC5
Concept ของการใช้ MAGIC Formula นั้นไม่ใช่เราจะเอาหุ้นจากการคำนวณ MAGIC Formula ได้ทั้งหมด มาซื้อแล้วถือรอ 1 ปีเพือรอผลตอบแทน 10% เพราะจากการเฝ้าติดตามผลนั้น พบว่ามีหุ้นบางตัวที่วิ่งได้สูงจริงแต่ก็มีหุ้นส่วนมากที่ขาดทุนหนักอยู่จำนวนหลายตัวมากๆ เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วสูตรการใช้ MAGIC Formula ในแนวความคิดของผมนั้นคิดว่าเราควรมีขั้นตอนการใช้ดังนี้
- 1.1 List รายชื่อหุ้นที่เราคำนวณมาได้จาก MAGIC Formula ในแต่ละเดือน ของแต่ละ MAGIC
- 1.2 ดูความเปลี่ยนแปลงของหุ้นแต่ละ MAGIC สัปดาห์ละครั้งหรือแล้วแต่ว่าจะต้องการติดตามให้ถี่แค่ไหน อันนี้แล้วแต่ถนัด
- 1.3 เมื่อเจอหุ้นในแต่ละ MAGIC ที่มีแนวโน้มเขียวเริ่มทำกำไรได้ เราจะเลือกหุ้นเหล่านั้นมาวิเคราะห์ต่อในขั้นตอนของการดูกราฟและอื่นๆต่อไป
จะสังเกตุเห็นว่าการเลือกหุ้นจาก MAGIC Formula นั้น แค่เป็นการเลือกหุ้นเพื่อมาวิเคราะห์ต่อเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อเลือกหุ้นมาจาก MAGIC แล้วซื้อทันที
ข้อค้นพบอีกอย่างคือ หุ้นที่คำนวณเจอใน MAGIC Formula หลายเดือนติดต่อกันมักจะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง และข้อค้นพบอีกอย่างพบว่า ถ้าเราจะเลือกหุ้นจาก MAGIC Formula เพื่อเล่นหุ้นแนว VI หุ้นที่เจอใน MAGIC4 มักจะมีโอกาสที่ดีที่ใช้ในการเล่นแนว VI มากกว่าหุ้นใน MAGIC อื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่หุ้นใน MAGIC อื่นๆจะไม่ดีเพียงแต่จากสถิติที่ผ่านมาผลออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนการเล่นหุ้น Turnaround จากการเลือกหุ้นใน MAGIC ยังไม่ชี้ชัดใดๆว่า สามารถเลือกมาใช้เล่นได้ผลอย่างน่าพอใจ
สำหรับการคำนวณสูตรของ MAGIC1-5 มีดังนี้
นอกจากการกรองหุ้นโดยใช้การคำนวณ MAGIC แล้วเราอาจจะใช้การกรองหุ้นซ้ำจากการใช้ MAGIC เพิ่มเติมคือการใช้หลักการเลือกหุ้นแบบ อาจารย์ ชาย กิตติคุณาภรณ์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วิธีการเลือกหุ้นแบบอาจารย์ ชาย
วิธีการเลือกหุ้นของอาจารย์ ชาย กิตติคณาภรณ์ ที่ใช้กับคนมีเงินน้อย จะเน้นว่าต้องเลือกหุ้น
- ที่ใช่ => ต้องทำธุรกิจผูกขาด
- ที่ถูก => P/BV น้อยๆ อาจจะมากกว่า 1 เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 2
- ที่ดี => ดูงบการเงิน อัตราส่วนทางการเงินแข็งแกร่ง
- ปลอดภัย =>
- กำไรสูงสุด =>
2. พิจารณากราฟราย Month
3. พิจารณาแบบ 56-1 งบการเงินย้อนหลังและข่าวสาร
สาระสำคัญในการอ่านแบบ 56-1 และวิเคราะห์งบการเงินจะใช้ การพิจารณาตามแนวทางดังนี้
- ขั้นแรกดูเทรนด์ของงบการเงินตัวสำคัญๆ
- EPS ควรเป็นเทรนด์ขาขึ้น 5 ปีย้อนหลัง
- D/E ควรเป็นเทรนด์ขาลง 5 ปีย้อนหลัง (ถ้าได้ค่า น้อยกว่า 2 หรือเป็น 0 จะดีมากๆ)
- ขั้นสองอ่านแบบ 56 - 1
ในเรื่องของแบบ 56-1 นั้น เป็นการพิจารณาตัวธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ว่าเค้าทำธุรกิจอะไร มาจากไหน โครงสร้างบริษัทเป็นยังไง กำไรเกิดได้อย่างไร รวมทั้งความเสี่ยงและโอกาสต่างๆของบริษัทมากมาย พูดง่ายว่าแบบ 56-1 นั้น สามารถบอกเราเกี่ยวกับบริษัท ก่อนที่เราจะตัดสินใจเป็นเจ้าของ
สำหรับแบบ 56-1 นั้นจะมีหลายไฟล์แยกย่อย ซึ่งบางคนอาจมองว่าเยอะมากกว่าจะอ่านจบสักบริษัท แต่เอาเข้าจริงๆเวลาอ่านถ้าได้อ่านอย่างตั้งใจเรื่อยๆพบว่า ไม่เกิน 2 วัน ก็น่าจะอ่านได้เข้าใจและอ่านได้หมด ซึ่งเราอาจจะเน้นอ่านไฟล์ BUSINESS และไฟล์ FINANCE ก่อนไฟล์อื่นๆ ก็ได้ จะทำให้เราเข้าใจและรู้จักบริษัทได้ก่อน
การหาไฟล์แบบ 56-1 ได้มาจากไหน ผมจะเขียนวิธีขั้นตอนให้จากลิ้ง การหาไฟล์แบบ 56-1 ของบริษัท (<== กดตามนี้ได้เลย)
- ขั้นสามดูรายละเอียดงบการเงินล่าสุด ตามตารางไกด์นำ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมในจุดนี้ เพื่อความปลอดภัยในหุ้นเราอาจจะเพิ่มการพิจารณาเข้าไปหากเป็นไปได้ในปีที่จะซื้อ ในเรื่องของ
- P/E ควรไม่เกิน 10
- P/BV ควรไม่เกิน 1.5
- กำไรต่อเนื่อง 5 ปี
- มีความคล่องตัวสูง
- Market Cap 1,000 ล้านขึ้น
- มีโอกาสการล้างขาดทุนสะสม
หรือถ้าหากใช้กลยุทธ์จากพี่ โจ ลูกอิสานเราก็สามารถเพิ่มเติมเงื่อนไขในแบบหุ้น VI คือ
- มีกำไร ต่อเนื่องยาวนาน
- P/E น้อยๆ
- ROE ต้องมากกว่า 15%
- D/E ไม่ควรเกิน 1 เท่า
- มีเงินสดเยอะ
- หุ้นต้องเป็นขนาดเล็กหรือกลาง
- มองหาตัวเร่งเร้าที่รุนแรง
- ผู้บริหารดี
แต่หากข้อกำหนดเพิ่มเติมนี้ไม่มีครบทุกข้อก็ไม่เป็นไร เพราะหุ้นที่เราเลือกมากจาก MAGIC ส่วนใหญ่มักจะมาจาก MAGIC4 ซึ่งกำไรอาจจะไม่มากนักหรืออาจจะมีปัญหาบ้างแต่เรื่อง Cash Flow กับ D/E เป็นเรื่องสำคัญมาก
สำหรับการหาอัตราส่วนทางการเงินและตัวแปรทางการเงินตามตารางมีวิธีการหาโดยดูจากงบการเงินล่าสุดเลือกตามลิ้งดังนี้
- ทุนจดทะเบียน
- จำนวนหุ้น
- รวมส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่
- Par
- ราคาหุ้นปัจจุบัน
- รายการสินทรัพย์หมุนเวียน
- รายการหนี้สินหมุนเวียน
- สินค้าคงเหลือ
- รายได้รวม
- รวมสินทรัพย์
- รวมหนี้สิน
- เงินสด
- ส่วนเกินมูลค่าหุ้น
- BV
- P/BV
- P/E
- Current Ratio
- Quick Ratio
- A/R Turnover
- Day Recieve
- Inventory Turnover
- Inventory Day
- เงินลงทุนชั่วคราว
- D/E
- สามารถกู้เงินเพิ่มได้
- รวมเงินที่สามารถลงทุนได้
4. กำหนดจุด Cut loss จุดขายจากประเมินมูลค่าและจากกราฟราย Day
การประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย
การกำหนดจุดขายอาจจะกำหนดได้หลากหลายวิธี พูดง่ายๆคือการ ประเมินมูลค่าหุ้นนั่นเอง โดยเราจะพิจารณาราคาตลาดว่าเกินมูลค่าหรือยัง ถ้าเกินมูลค่าเราก็ควรต้องขาย การประเมินมูลค่านั้น ถือว่ามีธีการที่ยากมาก แต่เราก็สามารถประเมินมูลค่าหุ้นแบบง่ายๆ ซึ่งได้ผล เหมือนวิธียากๆ นั่นคือการประเมินมูลค่าหุ้นแบบอาจารย์ ชาย คนเดิมนั่นเอง โดยมีหลักการดังนี้
"เงินปันผลที่ได้รับต้องได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่น้อยไปกว่าการเอาเงินลงทุนในจำนวนที่เท่ากับไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย เขียนเป็นสมการได้ดังนี้"
เงินปันผลต่อหุ้น = อัตราดอกเบี้ย(%) X ราคาหุ้น
ตัวอย่าง : หุ้น A ปีนี้ได้กำไรต่อหุ้น(E) 1 บาท สมมุติว่าจากกำไรดังกล่าวสามารถจัดปันผลได้ที่ 0.35 บาทต่อหุ้น และถ้าดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ 2.5% ต่อปี ดังนั้นเราจะหาราคาหุ้นที่เต็มมูลค่าได้คือ
0.35 = (2.5 / 100 ) x ราคาหุ้น
ราคาหุ้น = 0.35 / [(2.5 / 100 )]
ราคาหุ้น = 14 บาท
5. พิจารณาจุดการเข้าซื้อจากกราฟราย Day